ในการเลือกใช้หลอดไฟในบ้าน หลายคนอาจเคยสงสัยว่า หลอดไฟในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่มีอยู่หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์และหลอดไฟ LED แล้วหลอดไฟในแต่ละแบบมีลักษณะการใช้งานอย่างไร วันนี้เราพร้อมมาบอกกันให้รู้ 

  เพราะด้วยลักษณะภายนอกที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกนำไปใช้อาจจะต้องดูถึงประเภทของงานที่นำไปใช้ด้วย แต่สำหรับความแตกต่างของทั้งหลอดไฟ LED และหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์จะเป็นอย่างไรนั้น เราแยกความแตกต่างเอาไว้ให้รู้กันแล้วในบทความนี้ 

led-guy-fixing

ความทนทานของหลอดไฟทั้งสองประเภท 

  ด้วยลักษณะของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่อาจจะดูบอกบางกว่าหลอดไฟ LED นั่นก็เป็นเพราะว่าหลอดไฟ LED นั้นผลิตจากพลาสติก จึงสามารถทนต่อแรงสะเทือนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบและหลากสถานที่ ส่วนในเรื่องของระยะเวลาในการใช้งานนั้น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์จะมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่าหลอดไฟ LED โดยหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 20,000 ชั่วโมง ส่วนไฟ LED จะอยู่ที่ 50,000 ชั่วโมง หรือถ้าหากเทียบเป็นปี จะอยู่ที่ 5 ปีเลยทีเดียว

 

ข้อดีของหลอด LED 

  สำหรับการเลือกใช้หลอดไฟประเภทนี้นั้น หลายๆ อาจจะสงสัยว่าจะมีข้อดีอย่างไร และสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ เอาเป็นว่าเรามาดูถึงข้อดีของหลอดไฟ LED กันหน่อยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง 

  • สำหรับบ้านไหนที่ต้องการลดค่าไฟ การใช้หลอดไฟประเภทนี้สามารถช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้ เพราะมีอัตราการกินไฟต่ำ แต่ในทางกลับกันสามารถให้แสงสว่างเท่ากับหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ 
  • มีความทนทาน หากเทียบกับหลอดไฟทั่วไปแล้ว หลอดไฟประเภทนี้ถือว่ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานทีเดียว โดยอาจสามารถใช้ได้นานถึง 10 – 20 ปี 
  • ทำให้บ้านไม่ร้อน อีกหนึ่งข้อดีของหลอดไฟประเภทนี้ก็คือ การที่หลอดไฟมีความร้อนต่ำ จึงช่วยให้บรรยากาศภายเย็นขึ้น อีกทั้งเครื่องปรับอากาศยังไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปด้วย 
  • ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง เพราะไม่ต้องพึ่งพาบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ สามารถนำไปติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและพร้อมใช้งานได้ทันที 
  • สามารถกระจายแสงได้อย่างทั่วถึง ยิ่งบ้านไหนที่ต้องการติดตั้งหลอดไฟที่สามารถให้ความสว่างได้อย่างครอบคลุม การเลือกหลอดไฟประเภทนี้ถือว่าเหมาะสม 

  สำหรับใครที่กำลังจะเลือกติดตั้งไฟให้แสงสว่างภายในบ้าน การเลือกใช้หลอดไฟ LED ถือว่าตอบโจทย์ในทุกด้าน แต่ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่าหลอดไฟ แต่ถ้าเทียบกับการใช้งานและความทนทานแล้ว ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกใช้แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อการใช้งานสูงสุดนั่นเอง